หยุดท่องศัพท์ซะ...ถ้าอยากพูดอังกฤษคล่อง!!
.
.
.
.
.
แต่เห้ย!! ถ้าไม่รู้ศัพท์แล้วจะเอาศัพท์ที่ไหนมาพูดดล่ะะะ!
.
จริงๆแล้ว #Mindenglish เราไม่ได้ห้ามเรียนรู้ศัพท์น้าา
ศัพท์สำคัญมากๆยืนยันเลยยย
.
แต่ระบบ Mind English ของเรา
จะห้ามไม่ให้ท่องศัพท์แบบเดิมๆต่างหากล่ะ
ที่แปลแล้วจำๆ แบบนกแก้วนกขุนทอง (Translating&Memorizing)
.
เราเน้นการเรียนรู้ศัพท์เป็นภาพ (Visualizing&Feeling) เพราะจะจำศัพท์ได้อย่างยาวนานและเวลาคุยกับฝรั่งก็สามารถหยิบศัพท์นั้นๆมาใช้ได้ทันทีแบบเป็นอัตโนมัติ
.
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ตอนเราเรียนรู้ศัพท์กลุ่ม Verb
ที่เราตอนเด็กๆ เราท่องกันว่า
.
1. Ask = ถาม
2. Cry = ร้องไห้
3. Eat = กิน
.
อะไรประมาณนี้ แล้วเราก็แปล+ท่องไปเรื่อยๆ
เวลาต้องคุยกับฝรั่งจริงก็งึกๆงักๆ
ไม่ใช่ไม่รู้ศัพท์นะ รู้แต่นึกไม่ออก!!
.
ระบบ Mind English ของเราเลยไม่ให้ท่องศัพท์ไง
ให้เรียนรู้ศัพท์เป็นภาพไปเลย เพราะมันเวิคกว่าเยอะะะ
.
ยกตัวอย่างการเรียนเรื่อง Verb ถ้าจะเรียนรู้แบบ Mind English
เรียนรู้ยังไงล่ะ?....อ่ะ มาดูกัน!
.
1. Save รูปนี้เข้าคอม เข้ามือถือเลย เอาไว้มาดูบ่อยๆ
เวลาดูก็ฝึกออกเสียงไปด้วย
(ถ้าไม่รู้ออกเสียงยังไง อ่านได้ที่http://www.mindenglish.net/article/greatvocab2/)
.
.
.
.
.
แต่เห้ย!! ถ้าไม่รู้ศัพท์แล้วจะเอาศัพท์ที่ไหนมาพูดดล่ะะะ!
.
จริงๆแล้ว #Mindenglish เราไม่ได้ห้ามเรียนรู้ศัพท์น้าา
ศัพท์สำคัญมากๆยืนยันเลยยย
.
แต่ระบบ Mind English ของเรา
จะห้ามไม่ให้ท่องศัพท์แบบเดิมๆต่างหากล่ะ
ที่แปลแล้วจำๆ แบบนกแก้วนกขุนทอง (Translating&Memorizing)
.
เราเน้นการเรียนรู้ศัพท์เป็นภาพ (Visualizing&Feeling) เพราะจะจำศัพท์ได้อย่างยาวนานและเวลาคุยกับฝรั่งก็สามารถหยิบศัพท์นั้นๆมาใช้ได้ทันทีแบบเป็นอัตโนมัติ
.
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ตอนเราเรียนรู้ศัพท์กลุ่ม Verb
ที่เราตอนเด็กๆ เราท่องกันว่า
.
1. Ask = ถาม
2. Cry = ร้องไห้
3. Eat = กิน
.
อะไรประมาณนี้ แล้วเราก็แปล+ท่องไปเรื่อยๆ
เวลาต้องคุยกับฝรั่งจริงก็งึกๆงักๆ
ไม่ใช่ไม่รู้ศัพท์นะ รู้แต่นึกไม่ออก!!
.
ระบบ Mind English ของเราเลยไม่ให้ท่องศัพท์ไง
ให้เรียนรู้ศัพท์เป็นภาพไปเลย เพราะมันเวิคกว่าเยอะะะ
.
ยกตัวอย่างการเรียนเรื่อง Verb ถ้าจะเรียนรู้แบบ Mind English
เรียนรู้ยังไงล่ะ?....อ่ะ มาดูกัน!
.
1. Save รูปนี้เข้าคอม เข้ามือถือเลย เอาไว้มาดูบ่อยๆ
เวลาดูก็ฝึกออกเสียงไปด้วย
(ถ้าไม่รู้ออกเสียงยังไง อ่านได้ที่http://www.mindenglish.net/article/greatvocab2/)
เช่น คำง่ายๆอย่าง jump ถ้าอ่านแบบไทยๆ ก็อ่านว่า จั๊ม
แต่ถ้าอยากอ่านแบบฝรังเก๋ๆเท่ห์ๆ อ่านว่า จัมพ์
(ออกเสียงเหมือนสองพยางค์ควบ พยางค์แรกออกเสียงว่า จั๊ม
พยางค์ที่สองพูดว่า เผอะ แต่ไม่ต้องออกเสียง ออกแต่ลมเบาๆพอ)
พูดง่ายๆ ขยับปากสองครั้ง ครั้งแรกออกเสียง
ครั้งที่สองออกแค่ลมเบาๆน่ารักๆ รับรองเหมือนฝรั่งเด๊ะ)
แต่ถ้าอยากอ่านแบบฝรังเก๋ๆเท่ห์ๆ อ่านว่า จัมพ์
(ออกเสียงเหมือนสองพยางค์ควบ พยางค์แรกออกเสียงว่า จั๊ม
พยางค์ที่สองพูดว่า เผอะ แต่ไม่ต้องออกเสียง ออกแต่ลมเบาๆพอ)
พูดง่ายๆ ขยับปากสองครั้ง ครั้งแรกออกเสียง
ครั้งที่สองออกแค่ลมเบาๆน่ารักๆ รับรองเหมือนฝรั่งเด๊ะ)
2. จำภาพของคำศัพท์แต่ละอันไปเลยยย...ไม่ต้องแปลนะ ห้ามเด็ดขาด (ทำไมถึงห้ามแปล อ่านเพิ่มเติมที่http://www.mindenglish.net/article/notranslation/)
เช่นจากเดิมที่เราท่อง Jump = กระโดด
เปลี่ยน Jump = Jump (คือภาพ jump ไปเลย)
ไม่มานั่งท่อง นั่งจำคำแปลกันนะคะ จำคำศัพท์
จำกริยาอาการแท้จริงไปเลยย รับรองเลิศ!
เช่นจากเดิมที่เราท่อง Jump = กระโดด
เปลี่ยน Jump = Jump (คือภาพ jump ไปเลย)
ไม่มานั่งท่อง นั่งจำคำแปลกันนะคะ จำคำศัพท์
จำกริยาอาการแท้จริงไปเลยย รับรองเลิศ!
.
3. สำคัญที่สุดข้อนี้ เราต้องเอามาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวันกับตัวเรา ชีวิตเราจริงๆเลยนะ
เช่น วันนี้ทำงานโคตรเหนื่อยเลย
เดี๋ยวถ้ากลับบ้านปุ๊บ จะกระโดดขึ้นเตียงนอนปั๊บเลย...
เราก็อาจจะคิดเป็นภาษาอังกฤษว่า
When I arrive home, I will jump into the bed immediately!
แต่ถ้ายากไป ฝึกเป็นคำๆก็ได้ เช่น เห้ย กลับบ้านปั๊บ ชั้นจะ jump ขึ้นเตียงทันทีเลย! (แต่ถ้าให้ดี พยายามคิดเป็นประโยคนะ)
.
หัวใจ คือต้องฝึกใช้บ่อยๆ ยิ่งเราใช้บ่อย เรายิ่งคล่อง ยิ่งใช้คำศัพท์นั้นๆในสถานการณ์จริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นอัติโนมัติสุดๆ
3. สำคัญที่สุดข้อนี้ เราต้องเอามาประยุกต์ใช้จริงในชีวิตประจำวันกับตัวเรา ชีวิตเราจริงๆเลยนะ
เช่น วันนี้ทำงานโคตรเหนื่อยเลย
เดี๋ยวถ้ากลับบ้านปุ๊บ จะกระโดดขึ้นเตียงนอนปั๊บเลย...
เราก็อาจจะคิดเป็นภาษาอังกฤษว่า
When I arrive home, I will jump into the bed immediately!
แต่ถ้ายากไป ฝึกเป็นคำๆก็ได้ เช่น เห้ย กลับบ้านปั๊บ ชั้นจะ jump ขึ้นเตียงทันทีเลย! (แต่ถ้าให้ดี พยายามคิดเป็นประโยคนะ)
.
หัวใจ คือต้องฝึกใช้บ่อยๆ ยิ่งเราใช้บ่อย เรายิ่งคล่อง ยิ่งใช้คำศัพท์นั้นๆในสถานการณ์จริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นอัติโนมัติสุดๆ
นี่คือวิธีการเรียนรู้แบบ Mind English เลย (ถ้าอยากเรียนรู้วิธีเรียนรู้ศัพท์แบบ Mind English อย่างละเอียดอ่านได้ที่http://www.mindenglish.net/article/greatvocab1/) ทำแบบนี้ไม่ใช่เฉพาะเรื่องนี้ แต่ให้ทุกเรื่อง ทุกคำศัพท์
.
บางคนถามเห้ยถ้าให้จำเป็นภาพ พออ่านหนังสือเจอคำศัพท์ใหม่ ที่ไม่รู้ความหมายจะเป็นภาพได้ไง? ถ้าเคสนี้อนุโลมให้เปิดดิกได้จ้า ดูพอให้รู้ความหมาย แต่เวลาจำให้จำเป็นภาพ และฝึกใช้บ่อยๆ
.
คำไหนเป็นสิ่งของ ก็จำเป็นภาพ คำไหนเป็นความรู้สึกก็จำเป็นความรู้สึก
แล้วปัญหาเวลาเจอฝรั่งแล้วนึกศัพท์ไม่ออก จะไม่เกิดกับคุณอีกเลย...
.
บางคนถามเห้ยถ้าให้จำเป็นภาพ พออ่านหนังสือเจอคำศัพท์ใหม่ ที่ไม่รู้ความหมายจะเป็นภาพได้ไง? ถ้าเคสนี้อนุโลมให้เปิดดิกได้จ้า ดูพอให้รู้ความหมาย แต่เวลาจำให้จำเป็นภาพ และฝึกใช้บ่อยๆ
.
คำไหนเป็นสิ่งของ ก็จำเป็นภาพ คำไหนเป็นความรู้สึกก็จำเป็นความรู้สึก
แล้วปัญหาเวลาเจอฝรั่งแล้วนึกศัพท์ไม่ออก จะไม่เกิดกับคุณอีกเลย...

แหล่งที่มา https://www.facebook.com/mindenglishclub
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น